ใช้ครีมกันแดดแบบ ป้องกันได้สูงสุด

ใช้ครีมกันแดดแบบ ป้องกันได้สูงสุด

การใช้ครีมกันแดด ปกป้องผิวแบบสูงสุด

ช่วงนี้อากาศร้อนจัดไหนจะฝนตกอีก การใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากทีเดียว เพราะว่าการใช้ครีมกันแดดอย่างเหมาะสมและถูกต้องนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวได้อย่างสูงสุดเลยละค่ะ ฉะนั้นแล้วเราหันมาทำการใช้ครีมกันแดดให้ถูกต้อง ถูกวิธี และเหมาะสมเพื่อการปกป้องผิวงามของคุณไม่ให้เหยี่ยวย่นหรือแก่ก่อนวัยกันดีกว่า และวันนี้เราก็จะมาขอแนะนำการใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสมอยู่ในการตั้งคำถามเรื่องการใช้ครีมกันแดดของคุณผู้หญิงทุกท่านค่ะ ร้อนขนาดนี้ห้ามพลาดการปกป้องแสงแดดกันเด็ดขาดค่ะ

การใช้ครีมกันแดด เพื่อการปกป้องแบบสูงสุด

–     คุณใช้ครีมกันแดดที่มีค่าปกป้องเท่าไร

เดี๋ยวนี้ที่ต่างประเทศเขามีครีมกันแดดที่มีค่า SPF ถึงสามหลักกันแล้วนะ ถึงแม้แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่จะบอกว่าความแตกต่างของการปกป้องจากค่า SPF สูง ๆ น่ะแสนจะจิ๊บจ๊อยอย่าง SPF15 จะกรองรังสียูวีบีได้ราว 93% ส่วน SPF30 กรองรังสียูวีบีได้ราว 97% ห่างกันเพียง 4% เอง แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังยืนยันอยู่ดีว่าควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 เป็นอย่างน้อยในหน้าร้อนเพื่อปกป้องที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้คนเรายังมักจะทาครีมกันแดดน้อยไปอีกต่างหากเราก็เลยไม่ได้รับการปกป้องแสงแดดเท่ากับที่ระบุไว้บนขวด เพราะฉะนั้นครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่สูงกว่าก็ต้องถือว่าช่วยได้มากขึ้น

–     คุณทาครีมกันแดดเพียงพอแล้วหรือเปล่า

อย่าเอาครีมกันแดดไปเทียบกับครีมบำรุงที่มักแนะนำให้ใช้ปริมาณเท่าเม็ดไข่มุกหรือเมล็ดถั่วทีเดียว เพราะจะเท่ากับว่าคุณทาครีมกันแดดน้อยกว่าที่ควรจะทาไปเยอะเลย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าถ้าจะปกป้องผิวทั่วเรือนร่างก็ต้องใช้ครีมกันแดดประมาณหนึ่งช็อด (แก้วเล็ก ๆ อย่างที่เขาใช้ตวงเหล่ากันน่ะ) ส่วนใบหน้าและลำคอก็ต้องใช้อย่างอน้อยหนึ่งช้อนชาถึงจะถือว่าเพียงพอ เอ้า…คราวนี้ตอบอีกทีนะว่าคุณทาครีมกันแดดมากพอหรือยัง?

–     คุณทาครีมกันแดดถูกต้องแล้วเหรอ

ว้าย…ก็ทา ๆ ถู ๆ ลงไปบนผิวน่ะจะมีอะไรยากยะ อย่าเพิ่มร้องกรี๊ดใส่เราจะเพราะมีงานวิจัยของ ดร.โรเบิร์ต เชย์รี นักไบโอฟิสิกส์ในเมมฟิสที่ระบุว่า การถูกทาครีมกันแดดรุนแรงเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของมันได้ถึง 25% ทีเดียวเชียว และนอกจากจะต้องทาครีมกันแดดอย่างเบามือแล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดดซ้ำด้วยนะ อย่างน้อยก็ทุกสองชั่วโมงถ้าอยู่กลางแดดตลอดเวลา (ถึงแม้ครีมกันแดดจะบอกคุณว่ามันปกป้องได้ยาวนานตลอดทั้งวันก็เถอะ) เพราะครีมกันแดดส่วนใหญ่มักจะเสื่อมประสิทธิภาพในการป้องกันแดดลงไปเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 ชั่วโมง โดยเฉพาะถ้าคุณมีเหงื่อออกหรือโดนน้ำ (ถึงแม้ครีมกันแดดของคุณจะเป็นชนิดกันน้ำกันเหงื่อก็ตามที) ครีมกันแดดก็จะถูกชำระล้างออกไปหมด

ฉะนั้นจึงต้องทาครีมกันแดดซ้ำ แต่ถ้าเปียกน้ำก็ควรเช็ดผิวให้แห้งก่อนทาครีมกันแดดเพราะน้ำจะทำให้สารกันแดดในครีมเจือจางลงแล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกแดดสัก 30 นามีด้วยค่ะ

ถ้าคุณใช้ครีมกันแดดแบบเคมิคัล (Chemical Sunscreen) เช่น Mexoryl หรือ Avobenzone ซึ่งต้องทางลงบนผิวอย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกไปเผชิญแสงแดดเพื่อที่มันจะได้ช่วยดูดซับรังสีได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการการปกป้องแบบทันทีทันใดให้เลือกครีมกันแดดแบบฟิสิคัล (Physical Sunscreen) อย่างเช่น Zine Oxide ซึ่งจะปกป้องผิวได้ในทันทีที่ทา

–     คุณปกป้องแบบดับเบิ้ลแล้วหรือยังจ๊ะ

ก็แสงแดดน่ะมีรังสียูวีหลายชนิดแต่ที่ส่องผ่านชั้นบรรยากาศลงมาทำร้ายผิวของเราได้ก็มีอยู่สองชนิดคือ รังสียูวีบีที่ก่อให้เกิดความหมองคล้ำและอาการไหม้แดด แล้วก็รังสียูวีเอที่ทุลุทะลวงลงไปในชั้นผิวได้ลึกกว่า ซึ่งส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย เฉพาะฉะนั้นครีมกันแดดของคุณก็ต้องปกป้องแบบดับเบิ้ลคือ ปกป้องรังสียูวีทั้งสองชนิดนี้ ส่วนใหญ่ก็มักจะระบุบนฉลากว่า Broad Spectrum หรือมีค่า PA ที่ตามท้ายด้วยเครื่องหมายบวก ซึ่งบ่งบอกถึงค่าการปกป้องรังสียูวีเอ เพราะฉะนั้นลองกลับไปดูฉลากครีมกันแดดที่บ้านสักหน่อย แล้วโยนทิ้งขวดที่ไม่ปกป้องรังสียูวีเอไปได้เลยนะจ๊ะถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวก่อนวัย

คุณเองก็ดูแลผิวหน้า ได้อย่างเหมาะสม”           

การดูแลผิวหน้าที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปนั้นอาจจะไม่ไม่เหมาะสมเท่าใดสำหรับใบหน้างาม ๆ ของคุณผู้หญิงแต่ละท่าน ฉะนั้นแล้วลองมาสำรวจกันดูซิค่ะว่าคุณได้ทำการดูแลผิวหน้า ได้อย่างเหมาะสมกันแล้วรึยังเอ่ย หากว่าการดูแลผิวหน้าของคุณนั้นมากเกินไปก็ควรจะลด ๆ ลงสักหน่อย แต่หากว่าการดูแลผิวหน้าน้อยจนเกินไปก็อาจจะบำรุงผิวหน้าไม่เพียงพออีกเช่นเดียวกันค่ะ บางครั้งในบางรายที่ทำการดูแลผิวหน้าถี่จนเกินไปก็ส่งผลเสียต่อผิวหน้าอันบอบบางของคุณได้อีกด้วยค่ะ วันนี้เราจึงมีการดูแลผิวหน้าในแบบที่เหมาะสมมาฝากกันอีกด้วยค่ะนั้นมาดูกันเลยนะ

การดูแลผิวหน้า “อย่างเหมาะสม”

  1. 1. ล้างหน้า วันละไม่เกินสองครั้งเช้าเย็นถึงแม้คุณจะมีผิวมันมากก็ไม่ควรล้างหน้าเกินกว่านี้
  2. 2. ทายาแต้มสิว วันละสองถึงสามครั้งถ้ายาแต้มสิวนั้นมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก หรือทาวันละครั้งถ้ามีส่วนผสมของเยนซอยล์เพอร์ออกไซด์เพราะเป็นสารที่ทำให้ผิวแห้งได้ง่าย
  3. 3. มาส์กพอกหน้าสัปดาห์ละครั้งถ้าคุณใช้แบบที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นหรือสัปดาห์ละสองครั้งถ้าใช้แบบที่ช่วยดูดซับความมันสำหรับคนที่เป็นสิวง่าย
  4. 4. สครับขัดตัว ใช้แค่สัปดาห์ละครั้งก็จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อสภาพออกไปโดยไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองแล้ว

Related posts

Leave a Comment